เกาลัด (Chestnut) เป็นพืชตระกูลถั่วที่นิยมนำมาคั่วเพื่อรับประทาน ด้วยรสชาติหวานเล็กน้อยและมีรสมัน พร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ สำหรับคนไทยเชื้อสายจีนน่าจะคุ้นเคยกับการกินเกาลัดกันเป็นอย่างดี ซึ่งวันนี้ TONG GARDEN จะพาทุกคนมาดูข้อดีและประโยชน์ของเกาลัด และตอบคำถามว่าถ้ากินเกาลัดจะอ้วนไหม? เหมาะกับคนที่กังวลใจเรื่องน้ำหนักหรือเปล่า

เกาลัดเป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกกันในประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอิตาลี โดยเกาลัดจะเป็นพืชจำพวกถั่ว เมล็ดเปลือกแข็ง นิยมทำเป็นขนมทานเล่น โดยการนำเนื้อเมล็ดมักไปคั่ว 30-40 นาที เพื่อให้กรอบและกะเทาะกินได้ และใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนมหวานอีกด้วย เกาลัดมีเป็นถั่วที่มีคุณสมบัติในการช่วยระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงประสาทและหัวใจ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น ท้องอืดบ่อยๆ อาหารไม่ย่อยบ่อยๆ รวมถึงคนที่มีปัญหาข้อเข่า หรือร้อนใน ตาบวมไม่ควรกิน

สรุปข้อดีและประโยชน์ของเกาลัด แบบเข้าใจง่ายๆ ดังนี้ 

เกาลัดนั้นประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก และอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินบี โพแทสเซียม คอปเปอร์ แมกนีเซียม กรดอะมิโน กรดโฟลิก และสารต้านอนุมูลอิสระ พูดได้ว่าเกาลัดเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีอย่างมาก รวมถึงใครที่สงสัยว่าเกาลัด คอเลสเตอรอลสูงไหม? คำตอบคือ ไม่สูง เพราะเกาลัดมีคอเลสเตอรอลเป็นศูนย์ เหมาะกับการกินเป็นขนมทานเล่นสำหรับผู้ใส่ใจด้านสุขภาพ

สารต้านอนุมูลอิสระภายในเกาลัดมีได้แก่ กรดแกลลิก กรดเอลลาจิก และวิตามินซี ซึ่งช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ ช่วยลดโอกาสการทำลายภูมิคุ้มกันและเซลล์ต่างๆ ทำให้เกิดการเสื่อมถอยของร่างกาย และยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคเกี่ยวกับหัวใจ และมะเร็ง เป็นต้น

หลายคนอาจสงสัยว่า เกาลัด อ้วนไหม? คำตอบคือ ไม่อ้วน เนื่องจากเกาลัดไม่มีคอเลสเตอรอลและยังมีแคลอรีต่ำ  อีกทั้งเกาลัดมีสัดส่วนไฟเบอร์ในปริมาณสูง มีไขมันต่ำ ซึ่งเมื่อกินไปแล้ว ไฟเบอร์ในกระเพาะอาหารจะพองตัว ทำให้อิ่มนาน และลดความอยากอาหารได้ เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักที่ต้องการลดการกินจุกจิก แต่อย่างไรก็ตาม ควรกำหนดปริมาณการกินที่เหมาะสม ไม่กินเยอะมากเกินไป

ในเมล็ดเกาลัดมีไฟเบอร์อยู่มาก ซึ่งช่วยให้อิ่มได้นานขึ้น โดยการกินไฟเบอร์จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดโอกาสในการเกิดอาการท้องผูกหรือริดสีดวงได้ และสังกะสีในเกาลัดช่วยให้บรรเทาอาการของโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กินเกาลัดแล้ว จำเป็นต้องดื่มน้ำตามให้มากๆ เพื่อลดโอกาสท้องผูกนั่นเอง

Celiac Disease (โรคเซลิแอค) คือ โรคที่ภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อกลูเตนหรือโปรตีนที่มีอยู่ในข้าวบารเลย์ ข้าวสาลี และข้าวไรย์ ซึ่งกระตุ้นให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมได้ ทำให้เกิดปัญหาในระบบขับถ่ายและพัฒนาการในเด็ก ซึ่งเกาลัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่สามารถกินทดแทนกลูเตนได้ โดยสารอาหารที่จำเป็นวิตามิน แร่ธาตุ คาร์โบไฮเดรต กรดโฟลิก ไฟเบอร์ และกรดไขมัน

เกาลัดเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนหรือคาร์โบไฮเดรตที่ดี ช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ อิ่มนานไม่หิวบ่อย ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานต่อเนื่องยาวนาน รวมถึงยังได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากกว่าอีกด้วย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักตัวและระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานสามารถกินเกาลัดได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2

ทองแดงและแมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของแร่ธาตุในกระดูก โดยเฉพาะการป้องกันการภาวะกระดูกพรุนที่สามารถเกิดขึ้นได้

จากทั้ง 7 ข้อดีและประโยชน์ในการกินเกาลัด หลายคนคงสนใจอยากจะหาเกาลัดมากินระหว่างวันกันแล้ว แต่ต้องขอบอกก่อนว่า เกาลัดต้องกินแบบผ่านการคั่วแล้วเท่านั้น ไม่ควรกินแบบดิบเพราะจะทำให้ท้องอืดได้ง่าย ดังนั้นใครที่มองหาเกาลัดแบบแกะเปลือก เนื้อนุ่ม หวานมันจาก TONG GARDEN สามารถซื้อได้เลยที่นี่

ทองการ์เด้นเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของเอเชียในโลกของขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์ของเราประกอบด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ได้แก่ ถั่วรวม ถั่วปากอ้า เกาลัดคั่ว ธัญพืช สาหร่ายอบกรอบ ป๊อปคอร์น และผลไม้แห้ง ที่มีหลากหลายรสชาติและรูปแบบมาให้ทุกคนเลือกซื้อ ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ช้อปทองการ์เด้นทุกสาขา และช่องทางจัดจำหน่ายออนไลน์ ดังนี้

LINE OA: https://lin.ee/1M9PYFE

Web site: https://shop.tonggarden.co.th/

Shopee: https://shopee.co.th/tonggardenthailand

Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/tonggardenthailand