คำถามที่พบบ่อย

1.เกาลัดคั่วอย่างไร?

หลายคนอาจจะเคยได้เห็นกรรมวิธีคั่วเกาลัดผ่านตากันมาบ้าง และอาจเกิดความสงสัยขึ้นว่าในเตาคั่วเกาลัดนั้น มีส่วนผสมอะไรอยู่บ้าง ซึ่งสิ่งที่เห็นในเตาคั่วเป็นเม็ดสีดำเล็กๆ นั้น จริงๆ แล้วมันคือ เม็ดทราย ซึ่งมีคุณสมบัติในการกักเก็บความร้อนได้ดี จึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้เมล็ดเกาลัดที่อยู่ภายในนั้นสุกทั่วถึงเท่ากันทุกเมล็ด โดยที่ไม่ทำให้เนื้อติดกับเปลือก ในการคั่วจะต้องทำการคนทรายไปพร้อมๆ กับเมล็ดเกาลัดที่อยู่ในเตาไปด้วยกันเรื่อยๆ เพื่อให้ความร้อนกระจายตัวได้อย่างทั่วถึงและป้องกันไม่ให้เกาลัดไหม้ จนในที่สุดเมล็ดเกาลัดจะค่อยๆ สุกไปพร้อมกันทั้งหมด

การคั่วของแต่ละร้านแต่ละที่ ก็จะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันออกไป เพื่อการสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวเมล็ดเกาลัด เช่น การใช้น้ำตาลทรายและเมล็ดกาแฟเป็นส่วนผสมเพิ่มลงไปในระหว่างการคั่ว ทำให้เกาลัดมีรสชาติที่หวาน และมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น ซึ่งการคั่วเกาลัดนั้นก็จะมีกรรมวิธีการคั่วอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ การคั่วด้วยไฟฟ้าหรือการใช้เครื่องคั่ว และการคั่วด้วยมือที่จะต้องมีความชำนาญและต้องระวังเรื่องการควบคุมความร้อนให้ดี เพราะหากร้อนเกินไปก็จะทำให้เมล็ดเกาลัดปะทุและไหม้ได้

2.คุณประโยชน์ของเกาลัดมีอะไรบ้าง?

นอกจากรสชาติที่หวาน มัน อร่อยแล้ว เกาลัดยังถือเป็นพืชถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายและหลากหลายที่สุดชนิดหนึ่งเลย เพราะในเกาลัดแต่ละเมล็ดนั้นเต็มไปด้วยสารอาหารแทบจะทุกจำพวก ทั้งโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ ทองแดง แมงกานีส ไทอามีน โฟเลต ไรโบฟลาวิน และโพแทสเซียม รวมไปถึงแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ อีกหลายชนิด เช่น วิตามิน B6 B5 B3 วิตามิน K วิตามิน C ตลอดจนฟอสฟอรัสและแมกนีเซียม อีกทั้งยังปราศจากคอเลสเตอรอล จึงทำให้เมื่อรับประทานเกาลัดในปริมาณที่พอเหมาะเป็นประจำ ก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารสำคัญต่างๆ ที่จำเป็น ส่งผลให้ร่างกายได้รับประโยชน์ในด้านสุขภาพมากมาย จึงมั่นใจได้ว่าเกาลัดเป็นของกินเล่นที่ได้ทั้งอร่อยเพลิดเพลิน ทั้งได้บำรุงร่างกายไปในเวลาเดียวกันเลย

3.เกาลัดดีต่อสุขภาพทุกคนหรือไม่?

เกาลัดเป็นของว่างที่กินได้อย่างเพลิดเพลิน พร้อมมอบประโยชน์ให้กับผู้บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย หากได้รับในปริมาณที่เหมาะสม แม้กระทั่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานก็สามารถกินเกาลัดได้อย่างสบายใจ รวมไปถึงผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ เกาลัดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบริโภคของว่างที่ดีเลยทีเดียว เพราะเกาลัดมีกรดโฟลิก ซึ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการเพิ่มขึ้นของเซลล์ของทารกในครรภ์ และสิ่งที่ทำให้เกาลัดพิเศษกว่าถั่วชนิดอื่นๆ ก็คือ การปราศจากกลูเตน ทำให้ผู้ที่แพ้กลูเตนสามารถเลือกเกาลัดให้เป็นแหล่งสารอาหารได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามเกาลัดก็จัดได้ว่าเป็นของกินเล่นชนิด “ถั่ว” ที่อุดมไปด้วยโปรตีน ดังนั้นจึงอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่แพ้ถั่วได้ จึงควรหลีกเลี่ยง และต้องระมัดระวังอาหารหรือขนมที่มีส่วนผสมของเกาลัดด้วย

4.กินเกาลัดแล้วจะอ้วนไหม?

เกาลัดเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่สูง ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่จะค่อยๆ เผาผลาญ และให้พลังงานอย่างช้าๆ อย่างต่อเนื่อง มีใยอาหารเยอะ แต่ให้ไขมันน้อยและไขมันที่มีคือไขมันชนิดดี อีกทั้งในเกาลัดที่ทำให้สุกแล้วยังให้ปริมาณแคลอรีที่ต่ำอีกด้วย ดังนั้นเกาลัดจึงจัดเป็นอาหารที่ให้พลังงานชั้นดี เมื่อกินในปริมาณที่เหมาะสมก็จะไม่ทำให้น้ำหนักขึ้น อีกทั้งยังให้ประโยชน์มากมายต่อร่างกายได้เป็นอย่างดี เหมาะมากกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก

5.ทำไมเกาลัดของทองการ์เด้น จึงได้ประโยชน์แบบเน้นๆ

การเลือกเกาลัดคั่วสุกแบบที่ยังมีเปลือกอยู่ อาจทำให้ต้องเสียเวลาต้องแกะเปลือก จึงทำให้ต้องลำบาก แต่เกาลัดของทองการ์เด้นถือเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกมากยิ่งขึ้นเพราะผ่านการแกะเปลือกให้เนื้อนุ่ม หวาน มัน เคี้ยวเพลิน มั่นใจได้ในรสชาติที่อร่อยในแพคเกจที่ดีที่สุด และด้วยคุณภาพเต็มเมล็ดพร้อมสารอาหารในเกาลัดที่อัดแน่น เหมาะสำหรับการเป็นอาหารที่ให้พลังงานชั้นดีสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยไม่ทำให้อ้วน เมื่อกินในปริมาณที่เหมาะสม และยังให้ประโยชน์มากมายต่อร่างกาย เกาลัดแกะเปลือกจากทองการ์เด้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่อย่างสะดวก ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็เพลิดเพลินไปกับความอร่อยและคุณประโยชน์มากมายของเกาลัดได้ มั่นใจในคุณภาพด้วย การรับรอง “มาตรฐานระบบเกษตรอินทรีย์ญี่ปุ่น” และ “มาตรฐานระบบเกษตรอินทรีย์สหรัฐอเมริกา