คำถามที่พบบ่อย

1.ถั่วปากอ้าทำอะไรได้บ้าง?

สาหร่ายมีหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 12,000 ชนิด โดยแบ่งออกได้เป็นสาหร่ายสีเขียว 4,000 ชนิด สาหร่ายสีแดง 6,000 ชนิด และสาหร่ายสีน้ำตาล 2,000 ชนิด โดยในประเทศไทยพบสาหร่ายประมาณ 350 ชนิด ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการบริโภคโดยตรงและแปรรูปเพื่อทำผลิตภัณฑ์อาหารและของใช้ต่างๆ เนื่องจากสาหร่ายมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อมนุษย์หลายชนิด

2.คุณประโยชน์ของถั่วปากอ้าคือ?

แน่นอนว่าสิ่งที่ตอบโจทย์คือการเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพของถั่วปากอ้าและที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ คือ คุณประโยชน์ที่มีอยู่ในตัวแบบไม่น้อยเลย เพราะเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี มีธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ แคลเซียมสูง ใยอาหาร รวมถึงยังเป็นถั่วชนิดที่มีวิตามิน B ที่สามารถช่วยในเรื่องของการป้องกันอาการเหน็บชา ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถั่วปากอ้ายังเต็มไปด้วยโพเเทสเซียม เเมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และโฟเลตที่ช่วยส่งเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดเเดงได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 รวมถึงสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายทั้งสิ้น เมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม

3.ถั่วปากอ้ากินได้ทุกคนไหม?

เช่นเดียวกับอาหารประเภทถั่วอื่นๆ ที่สามารถมีโอกาสทำให้ผู้แพ้ถั่วเกิดอาการแพ้ได้ และรวมถึงสรรพคุณของถั่วปากอ้าที่ส่งผลต่อการบำรุงเม็ดเลือดแดงเป็นพิเศษ นี่อาจทำให้ผู้ที่มีอาการของเอนไซม์ G6PD บกพร่อง เกิดผลกระทบที่มากกว่าได้ จึงอาจจะต้องระมัดระวังโดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่มีโอกาสแพ้ถั่วมากกว่าผู้ใหญ่ด้วย

4.กินถั่วปากอ้า ช่วยเรื่องการคุมน้ำหนักได้ไหม?

ถั่วปากอ้าคือถั่วอีกชนิดที่เป็นที่แนะนำสำหรับผู้ที่ดูแลเรื่องน้ำหนัก เพราะนอกจากจะให้คุณประโยชน์และสารอาหารมากมายแล้ว ในถั่วปากอ้า 100 กรัมนั้น มีปริมาณแคลอรีเพียงแค่ 88 กิโลแคลอรีเท่านั้น รวมถึงยังอุดมไปด้วยไขมันที่ดีที่ร่างกายต้องการ และยังมีปริมาณไฟเบอร์หรือใยอาหารที่สูง ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ถั่วปากอ้ายังเต็มไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ที่สามารถช่วยลดไขมันหน้าท้องไม่ให้เกิดการสะสมได้อีกด้วย หากกินในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกถั่วปากอ้าแบบอบก็จะทำให้ได้ประโยชน์มากขึ้นด้วย ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับสาวๆ และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก